แพ็คเกจการลงทุนแฟรนไชส์โรงงานน้ำดื่ม
การเปรียบเทียบการลงทุน
1. Package Family: Basic Package
– การลงทุน: 3 ล้านบาท
– ROI (Return on Investment): 77%
– กำไรสุทธิต่อปี: 1,080,000 บาท
– ระยะเวลาสัญญาแฟรนไชส์: 3 ปี
– ค่าธรรมเนียมสัญญาตอนแรกเข้า: 120,000 บาท
– ค่าธรรมเนียมรายเดือน: เดือนละ 10,000 บาท ในปีที่ 2 และ 3 จนครบสัญญา
2. Package Industry: Standard Package
– การลงทุน: 5 ล้านบาท
– ROI (Return on Investment): 180.8%
– กำไรสุทธิต่อปี: 5,760,000 บาท
– ระยะเวลาสัญญาแฟรนไชส์: 3 ปี
– ค่าธรรมเนียมสัญญาตอนแรกเข้า: 200,000 บาท
– ค่าธรรมเนียมรายเดือน: เดือนละ 15,000 บาท ในปีที่ 2 และ 3 จนครบสัญญา
– ระบบผลิตน้ำขวด: 900,000 แพคต่อปี (สามารถคำนวณกำไรสุทธิจากขวดเพิ่มเติมได้)
– กำไรสุทธิต่อปีจากน้ำถัง: 1,080,000 บาท
3. Package Industry Plus : Premium Package
– การลงทุน: 10 ล้านบาท
– ROI (Return on Investment): 180.8%
– กำไรสุทธิต่อปี: 11,160,000 บาท
– ระยะเวลาสัญญาแฟรนไชส์: 3 ปี
– ค่าธรรมเนียมสัญญาตอนแรกเข้า: 200,000 บาท
– ค่าธรรมเนียมรายเดือน: เดือนละ 15,000 บาท ในปีที่ 2 และ 3 จนครบสัญญา
– ระบบผลิตน้ำขวด: 144,000 ลิตรต่อวัน (72,000 ขวดต่อวัน)
เมื่อเปรียบเทียบแพ็คเกจทั้ง 3 พบว่า:
– Package Industry และ Package Industry Plus มี ROI สูงถึง 180.8% ทำให้ได้กำไรตอนคืบแรกและในระยะยาวมากกว่า Package Family ที่มี ROI เพียง 77%
– Package Industry และ Package Industry Plus มีกำไรสุทธิต่อปีสูงกว่า Package Family โดยเฉพาะ Package Industry Plus ที่มีกำไรสุทธิต่อปี 11,160,000 บาท
– Package Industry Plus มีค่าลงทุนสูงที่สุด คือ 10 ล้านบาท ในขณะที่ Package Family มีค่าลงทุนต่ำที่สุด
ดังนั้น หากต้องการกำไรสูงและมี ROI ที่สูงก็ควรเลือก Package Industry Plus แต่ถ้าต้องการลงทุนน้อยและยอมรับกำไรที่น้อยกว่าก็ควรเลือก Package Family และ Package Industry ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในเรื่องของกำไรและ ROI
PRE – FRACHISE : Package Industry: Standard Package