• สร้างการรับรู้ (Awareness)
  • ทำให้ลูกค้าเข้าใจและสนใจ (Interest)
  • วางภาพลักษณ์แบรนด์ให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย
  • ใช้เครื่องมือโฆษณา, โปรโมชัน, คอนเทนต์ เพื่อดึงลูกค้าเข้ามา

 เป้าหมาย: ทำให้ “ประตูเปิด” ให้ทีมขายเดินเข้าไปได้ง่ายที่สุด

  • เจรจาและนำเสนอข้อเสนอที่ตรงกับความต้องการ
  • สร้างความเชื่อมั่นจนลูกค้าตัดสินใจซื้อ
  • ดูแลความสัมพันธ์เพื่อการซื้อซ้ำ (Retention)

🏆 การแข่งขันไม่ใช่วัดแค่แพ้–ชนะ

การชกมวยหรือการทำธุรกิจ ก็เหมือนกัน…
ไม่ได้ตัดสินกันแค่ใครล้มใครได้เร็วที่สุด
แต่ต้องมี น้ำใจนักกีฬา และเคารพในกติกาที่ตั้งไว้

ธุรกิจ = เวทีมวย

  • บางคนเลือก เล่นเกมสั้น (Short Game) – เน้นปิดดีลไว ยอดขายมาเร็ว แต่ก็อาจหายเร็ว
  • บางคนเลือก เล่นเกมยาว (Long Game) – สร้างแบรนด์ ลงทุนในความสัมพันธ์ และเติบโตอย่างยั่งยืน

เกมสั้น เหมาะกับ

  • ช่วงเปิดตลาดใหม่
  • ต้องการกระแสเร่งด่วน
  • มีสินค้าอายุสั้นหรือเทรนด์เฉพาะช่วง

เกมยาว เหมาะกับ

  • ธุรกิจที่ต้องการความเชื่อมั่นระยะยาว
  • ต้องการสร้างฐานลูกค้าประจำ
  • แบรนด์ที่อยากอยู่ในใจคนมากกว่าแค่ราคาถูก

สรุป บนเวทีธุรกิจ ไม่ว่าคุณจะเป็นมวยวัด หรือ มวยสากล เป้าหมายไม่ใช่แค่การชนะในยกนี้

แต่คือการ ยืนอยู่บนเวทีได้นาน และมีคู่แข่ง–คู่ค้า–ลูกค้าที่อยากเจอคุณอีกเสมอ

 เชิงเปรียบเปรย: “มวยวัด” vs “มวยสากล”

มวยวัด → เปรียบเหมือนนักขายที่ใช้ทุกวิธีเพื่อปิดดีล ไม่สนตำรา ขอให้ได้ยอดขายทันที อาจใช้ทักษะเฉพาะตัว การดึงจังหวะ การต่อรองแบบเฉพาะหน้า หรือแม้แต่สร้างข้อเสนอพิเศษแบบไม่ได้วางแผนมาก่อน

“สู้แบบมวยวัด” ในเชิงธุรกิจหรือการแข่งขันเชิงสัญลักษณ์ได้เลย

🥊 ยกที่ 1: ชนะเร็ว vs เกมยาว

  • มวยวัด (เกมสั้น) → ในยกแรกอาจบุกหนัก ต่อยรัว หวังน็อคให้เร็วที่สุด
    เหมือนนักขายที่เน้นปิดยอดทันที ไม่สนวิธี ขอแค่ได้เงินเข้าบริษัทเร็ว
    ✅ ข้อดี: ได้ผลลัพธ์ไว
    ❌ ข้อเสีย: หมดแรงเร็ว, คู่แข่งจับทางได้, ลูกค้าอาจไม่กลับมา
  • มวยสากล (เกมยาว) → ในยกแรกอาจเน้นอ่านเกม รักษาพลัง วางจังหวะ
    เหมือนนักการตลาดที่เน้นสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว ไม่เร่งขายจนเกินไป
    ✅ ข้อดี: มีพลังสู้ได้หลายยก, วางแผนชัดเจน
    ❌ ข้อเสีย: อาจไม่เห็นยอดขายทันที

 ข้อคิดสำหรับธุรกิจ

  • การขายที่เน้นแค่ ยกแรก เหมือนเน้นแค่โปรโมชั่นครั้งเดียว อาจได้ลูกค้าไว แต่ถ้าไม่มีการวางแผนต่อยอด เกมต่อไปก็แพ้ได้
  • ธุรกิจที่อยากอยู่รอด ต้อง ผสมเกมสั้นกับเกมยาว ให้สมดุล
  • เพราะเป้าหมายไม่ใช่แค่ชนะยกแรก แต่คือ ชนะทั้งแมตช์ และอยู่บนสังเวียนได้ยาวๆ


การตลาด ต่อยแบบมวยสากล กับ การขาย ต่อยแบบมวยวัด ไม่ได้มีใครชนะขาด เพราะทั้งคู่ จำเป็นต้องทำงานร่วมกัน เพื่อให้ธุรกิจไปต่อได้ สุดท้ายก็ต้องมาจับมือกันอยู่ดี

แนวคิดภาพเสมือนจริง “Sales & Marketing: Win Together, Not Alone”

Sales vs Marketing  เข้าใจให้ชัดและเดินไปด้วยกัน

1. แนวคิดหลัก

  • ฝ่ายขาย (Sales)
    • เน้น “ปิดการขาย” และทำยอดให้ได้ทันที
    • บางครั้งเหมือน “มวยวัด” ที่ใช้ทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะรอบนี้
    • เป้าหมายคือชนะเร็ว น็อคไว ได้คะแนนในยกแรก แต่บางครั้งอาจหมดแรงในยกถัดไป
  • ฝ่ายการตลาด (Marketing)
    • เน้น “สร้างภาพลักษณ์ แบรนด์ และความต้องการ”
    • เหมือน “มวยสากล” ที่มีระบบ ค่ายมวย กฎกติกา และการวางแผนเพื่อยืนระยะ
    • เป้าหมายคือเล่นเกมยาว ทำให้คู่แข่งยากจะชนะในระยะยาว

2. เชิงเปรียบเปรย (Metaphor)

  • การขาย คือ หมัดที่ออกทันที เพื่อได้คะแนนหรือปิดการขาย
  • การตลาด คือ การซ้อมและวางเกม เพื่อให้หมัดนั้นออกไปอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ถ้าขาดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
    • มีแต่การตลาด → ภาพลักษณ์ดีแต่ปิดการขายไม่ลง
    • มีแต่การขาย → ได้ยอดสั้นๆ แต่แบรนด์ไม่ยั่งยืน

3. ข้อคิดจากเวที

  • การแข่งขันไม่ใช่วัดแค่แพ้ชนะ แต่ต้องมี “น้ำใจนักกีฬา”
  • ในธุรกิจ ใครจะเล่น “เกมสั้น” หรือ “เกมยาว” ต้องรู้ตัวเอง
  • ยกแรกอาจน็อคคู่แข่งได้ แต่ถ้าไม่มีแผนต่อเนื่อง ก็อาจแพ้ในยกท้ายๆ

4. บทสรุป “Sales & Marketing: Win Together, Not Alone”
“การขายและการตลาด: ชนะไปด้วยกัน ไม่ใช่เพียงลำพัง”

  • ทำให้ยอดขายและแบรนด์เติบโตไปพร้อมกัน
  • วางแผนระยะสั้นและยาวให้สมดุล
  • ให้ Sales ปิดเกมให้ได้ และให้ Marketing ปูทางให้หมัดนั้นแม่นยำ

หลักสูตรอบรม: Sales Engineering Mastery

1. แนวคิดหลัก การขายไม่ใช่แค่ “การชกให้แรง” แต่ต้องมี

  • แผนการเล่น (กลยุทธ์การตลาด)
  • โค้ชและพี่เลี้ยง คอยบอกจังหวะและเทคนิค
  • ทีมสนับสนุน ที่ช่วยเตรียมข้อมูล อาวุธ และโอกาส

เหมือนในเวทีมวย…

2. หลักสูตรนี้จะช่วยคุณ

  • เสริมทักษะการขายเชิงวิศวกรรม (Sales Engineering)
    ให้คุณเข้าใจทั้งสินค้า, โซลูชัน และความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง
  • วางแผนการขายแบบมืออาชีพ
    จากการมองทั้ง “ภาพใหญ่” (การตลาด) และ “เป้าหมายเฉพาะหน้า” (การปิดการขาย)
  • ฝึกกับโค้ชจริง
    ผู้มีประสบการณ์ตรงจากทั้งสนามขายและเวทีธุรกิจ
  • สร้างทีมเวิร์ก
    ให้การขายและการตลาดทำงานไปด้วยกันแบบไร้รอยต่อ

3. สิ่งที่คุณจะได้รับ

  • Blueprint การขายเชิงกลยุทธ์ + เทคนิคปิดการขายขั้นสูง
  • Workshop จับมือทำ ให้คุณซ้อมก่อนลงสนามจริง
  • เครื่องมือและ Framework ที่ใช้ได้ทันทีในธุรกิจของคุณ
  • คำแนะนำตรงจากโค้ชและพี่เลี้ยงในสายงาน

4. เหมาะสำหรับ 💬 สรุป ในเวทีธุรกิจ

คุณอาจชกได้แรง แต่ถ้าไม่มีแผน ไม่มีโค้ช ไม่มีทีม คงยากที่จะยืนระยะ Sales Engineering Mastery

จะพาคุณไปสู่ชัยชนะทั้งใน “ยกแรก” และ “ยกสุดท้าย” สุดความสำเร็จในธุรกิจ

ภาพประกอบจาก ChatGPT 5

หลักสูตรอบรม: Sales Engineering Mastery

“เข้าใจเทคโนโลยี ขายอย่างมืออาชีพ ปิดงานอย่างมั่นใจ”

📅 วันอบรม:
🔹 วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2568
🕘 เวลา 09.00 – 16.00 น.
🏨 สถานที่: โรงแรมอมารี แอร์พอร์ต ดอนเมือง
📜 จบหลักสูตรได้รับ Certificate รับรอง

📚 หัวข้อที่อบรม

  1. Sales Engineering คืออะไร ?
  2. การขายสินค้า vs. การขายโซลูชัน
  3. ทักษะสำคัญที่ Sales Engineer ต้องมี
  4. Case Study & Consultative Selling Workshop

ค่าลงทะเบียน (รวมอาหาร 2 เบรค + 1 Buffet Lunch)

ผู้สมัครค่าลงทะเบียน
🔹 สมัครเดี่ยว15,000 บาท
🔹 สมัคร 2 คนเพียง 18,900 บาท (จากปกติ 23,000 บาท)

✅ อาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติ
✅ Coffee Break 2 รอบ
✅ จัดอบรมในห้องประชุมโรงแรม Amari Airport

📌 หมายเหตุ:
ราคาดังกล่าว รวมค่าอาหารและค่าห้องประชุมแล้ว

📲 สำรองที่นั่ง / สอบถามเพิ่มเติม:
ติดต่อผ่านทีมงาน TDWI
หรือพี่อ๊อด โดยตรงผ่าน Line / โทรศัพท์ 0934789169


ขอบคุณที่แบ่งปัน แชร์