Investing in Land: A Solid Foundation for Your Future เป็นแนวคิด ที่มักถูกนำมาใช้ในการโฆษณาหรือการตลาดในการลงทุนในที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์ โดยเน้นความมั่นคงและความเสถียรภาพของการลงทุนในที่ดินว่าเป็นฐานที่มั่นคงสำหรับอนาคตของคุณ
การลงทุนในที่ดิน เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าสินทรัพย์อื่น ๆ เนื่องจากที่ดินมักเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าคงที่และมีโอกาสเพิ่มมูลค่าเมื่อเวลาผ่านไป อีกทั้ง ที่ดินเป็นสิ่งที่สามารถนำไปใช้ในหลากหลายวัตถุประสงค์ เช่น สร้างบ้าน สร้างอาคารพาณิชย์ หรือ สร้างธุรกิจ สร้างโรงงานผลิตสินค้า เพื่อสร้างกำไรจากการลงทุน
นอกจากนี้ เนื้อหาบางส่วน อาจเป็นบทความเพื่อสร้างความตื่นตระหนักให้กับผู้คนเกี่ยวกับความสำคัญของการวางแผนการเงินและการลงทุนในที่ดินเพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างโอกาสในอนาคต.แต่รวมถึงจุดประสงค์ของข้อความนั้นด้วยว่าจะเน้นให้ผู้คนเห็นความคุ้มค่าและความเป็นไปได้ของการลงทุนในที่ดินในอนาคต.
Investment Property ( IP ) การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ นั้น เป็นการลงทุนในทรัพย์สินที่ไม่หมุนเวียน ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง หรือ สินทรัพย์ที่สร้างขึ้นเพื่อการให้ผลตอบแทนทางการเช่า หรือ การขายเพื่อทำกำไรจากการเพิ่มมูลค่าในอนาคต ในกระบวนการลงทุนใน IP บริษัทมักจะทำการบันทึกบัญชีในประเภทของสินทรัพย์และการบัญชีต่างๆ ดังนี้:
- การบันทึกบัญชีเริ่มต้น (Initial Recording): เมื่อบริษัทซื้อหรือสร้าง IP เข้ามาในสินทรัพย์ของบริษัท ต้องทำการบันทึกในบัญชีเป็นสินทรัพย์แบบราคาทุน (Cost Method) โดยบันทึกเงินที่ใช้ซื้อหรือสร้าง IP ทั้งหมดเป็นค่าทุนต้นและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในกระบวนการดังกล่าว เช่น ราคาที่จ่ายซื้อ, ค่าวัตถุดิบ, ค่าแรงงาน, ดอกเบี้ยกู้ยืมที่เกี่ยวข้อง, ค่านายหน้า, ค่าภาษี, ค่าควบคุมงานก่อสร้าง เป็นต้น
- การประเมินมูลค่า IP ในอนาคต (Impairment Test): หากมีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงสภาพการใช้งานหรือมีสถานการณ์ที่อาจทำให้มูลค่าของ IP ลดลง เช่น การเสื่อมความ หรือเงื่อนไขตลาดที่เปลี่ยนแปลง บริษัทจะต้องทำการประเมินว่ามูลค่าที่คาดว่าจะได้รับจากการใช้งานหรือการขาย IP ลดลงหรือไม่ และจะต้องปรับประเมินมูลค่าของ IP ลงในกรณีที่มูลค่าลดลง
- การเลือกใช้วิธีการวัดมูลค่า IP (Measurement Method Selection): ทุกๆ งวดการบัญชี เมื่อทราบข้อมูลสำหรับปีงบประมาณ บริษัทจะต้องเลือกวิธีการวัดมูลค่า IP ระหว่างราคาทุนเดิม (Cost Method) หรือมูลค่ายุติธรรม (Fair Value Method) โดยการเปรียบเทียบราคาทุนเดิมและราคาตลาดที่รับรู้ได้ และเลือกวิธีที่ให้ข้อมูลทางการเงินที่ถูกต้องและเชื่อถือ
แผนการลงทุนในโครงการโรงงานและการคืนทุนจากการเช่าพื้นที่สร้างโรงงานดังนี้:
คำนวณการลงทุนที่ดิน 2 ไร่ มูลค่า 20 ล้านบาท เราสามารถใช้สูตรเดิม (V = NOI / R) เพื่อหาเวลา ที่จะคืนทุนได้:
V = มูลค่าที่ดิน (20,000,000 บาท)
NOI = รายได้สุทธิต่อปี (600,000 บาท)
R = อัตราผลตอบแทน (0.03)
เราต้องแก้สูตรเพื่อหา NOI:
NOI = V * R
NOI = 20,000,000 * 0.03
NOI = 600,000 บาท
และตอนนี้เราสามารถหาเวลาที่จะคืนทุน (Payback Period) ได้:
Payback Period = มูลค่าที่ดิน / รายได้สุทธิต่อปี
Payback Period = 20,000,000 / 600,000
Payback Period ≈ 33.33 ปี
ดังนั้น คืนทุนในการลงทุนในที่ดินนี้จะใช้เวลาประมาณ 33.33 ปี ( ภาพประกอบแค่ตัวอย่างเท่านั่น )
.พื้นที่ที่มีขนาด 2 ไร่ และค่าเช่าโรงงานที่พิจารณาเช่าคือ 600,000 บาทต่อไร่ต่อปี.
เรามีพื้นที่ที่มีขนาด 2.5 ไร่ ค่าที่ดินที่ประเมินไว้ทั้งหมดคือ 25 ล้านบาท
ค่าเช่าโรงงานที่พิจารณาเช่าคือ 750,000 บาทต่อไร่ต่อปี ระยะเวลาในการคืนทุน จากการเช่าพื้นที่เปล่า 33.33 ปี แต่ถ้าสร้างโรงงานก็ต้องมีกำไรค่าเช่าโรงงาน ขึ้นอยู่กับขนาดของโรงงาน 1,875,000 บาทต่อปี ก่อสร้างเต็ม 1 ไร่ ทั้งหมด คือ การลงทุนล้วนๆ อยากลงทุนแบบเสี่ยงน้อยที่สุดก็ต้องศึกษาและทำแผนการลงทุนดี ๆ นะครับ
ราคาประเมินของแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน ทำเลที่ราคาที่ดินสูงเนื่องจากความเจริญ ปริมาณของประชากรรวมถึงความพร้อมของสาธารณูปโภค ทำให้การลงทุนจะสามารถที่จะสร้างผลลัพธ์ได้มากกว่า การตัดสินใจ ลงทุนต้องอาศัย ข้อมูลเหล่านี้มาประกอบการตัดสินใจด้วย
จากราคาค่าเช่าที่ดิน สู่ กำไรจากค่าเช่าโรงงาน มาสรุปตัวอย่างของการลงทุนโรงงานน้ำดื่ม ที่มีทั้งกำไรค่าเช่าและธุรกิจ แล้วในตารางการลงทุน เพื่อให้ศึกษาการลงทุนที่ใช้เงินทุนตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป